ฤดูร้อนมาถึงเมื่อไร ใคร ๆ ต่างก็ต้องหลบ ก็เพราะไม่ว่าจะย่างก้าวไปทางไหน แสงแดดและมลภาวะตัวการทำให้อารมณ์เสีย เหงื่อไหลไคลย้อยไปตาม ๆ กัน ดีไม่ดีแค่พูดจากันไม่กี่คำก็จะพาลหัวร้อนกันใหญ่ หลายคนจึงหาวิธีคลายร้อนผ่อนคลาย ให้สุขใจ แต่จะด้วยวิธีไหนอย่ารอให้เสียเวลา เราไปรู้จักวิธีคลายร้อนให้สุดว้าว ถูกอกถูกใจบรรดาคุณสาว ๆ จนปังไม่ไหวกันเลยทีเดียว วิธีคลายร้อนที่เราสรรหามานำเสนอคุณสาว ๆ ในวันนี้ได้แก่ 1.ลด ละ เลิก กิจกรรมที่ผิวพรรณต้องปะทะแสงแดดกลางแจ้งโดยตรง แม้ไม่มีข้อห้ามอย่างเป็นทางการ แต่ใคร ๆ ก็ตระหนักดีถึงพิษภัยของแสงแดดในยุคปัจจุบันได้ดี หากจำเป็นต้องออกไปปะทะแสงแดดจริง ๆ ก็ควรหาร่มหรือเครื่องป้องกันเอาไว้ดีที่สุด เช่น แว่นตากันแดด หมวกและร่ม เสื้อแขนยาว เป็นต้น 2.ใช้ขวดสเปรย์พ่นละอองน้ำ กรณีที่ไม่ได้อยู่ใกล้บริเวณที่มีเครื่องปรับอากาศ คุณสามารถพกพาขวดสเปรย์พลาสติกหรือแก้วใส แบบชิค ๆ ใส่น้ำสะอาดหรือน้ำแช่เย็นในปริมาณพอเหมาะ หยดน้ำยาอุทัยทิพย์หรือน้ำมันหอมระเหยกลิ่นที่สดชื่น ๆ ตามชอบ ในปริมาณเล็กน้อย เวลาใช้ก็แค่จับขวดให้อยู่ในลักษณะพร้อมฉีด ยื่นแขนห่างลำตัวเฉียงไปด้านข้างเล็กน้อย แล้วก็พ่นละอองน้ำขึ้นบนอากาศปล่อยให้ละอองฝอยตกลงสู่ใบหน้าหรือลำตัวเท่านี้ก็ชื่นใจเล็ก ๆ แบบเก๋ ๆ เลยค่ะ 3.งดเว้นเครื่องดื่มประเภทแอลกอฮอล์และคาเฟอีนต่าง ๆ…
Category: สาระทั่วไป
ความสุขในชีวิตที่ได้รับจากการสวดมนต์เป็นประจำ
หลักคำสอนในศาสนาพุทธ สอนให้คนเราใช้ปัญญาในการพิจารณาสิ่งต่าง ๆ ตามหลักเหตุและผล ตามกฎธรรมดาของธรรมชาติ ดำรงชีวิตอยู่ด้วยความไม่ประมาท และปฏิบัติเพื่อค้นพบความจริงอันประเสริฐ เราจะเห็นได้ว่าทุกครั้งที่เกิดวิกฤตการณ์ต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นอุบัติเหตุหรือภัยธรรมชาติ ตลอดจนการแพร่ระบาดของโรคภัยไข้เจ็บต่าง ๆ อันนำมาซึ่งความสูญเสียทั้งชีวิตและทรัพย์สิน หลงเหลือไว้แต่ความทุกข์และบาดแผลภายในใจ ในขณะที่ชาวพุทธส่วนใหญ่ที่นิยมใช้การสวดมนต์ ทำสมาธิ เจริญภาวนา เพื่อพิสูจน์สัจธรรมและเรียนรู้ว่าแท้จริงแล้วในชีวิตที่เกิดมานี้ไม่มีสิ่งใดเป็นของเราอย่างแท้จริง วันหนึ่งก็ต้องหมดไป สูญสลายไปตามวาระเวลา เมื่อรับรู้เช่นนั้นจิตใจก็จะปล่อยวางและคลายความทุกข์ พร้อมทั้งรับความสุขมาแทนที่ในวาระหนึ่ง แต่หลายคนอาจเกิดความสงสัยว่าความสุขอันเกิดขึ้นจากการสวดมนต์เป็นสิ่งที่เราพิสูจน์ได้จริงหรือไม่ เราไปเรียนรู้พร้อม ๆ กัน ความสุขอันเกิดจากการสวดมนต์ ไม่ใช่เรื่องงมงายและสามารถพิสูจน์ 2 ประการหลักได้แก่ ความสุขทางกายและความสุขทางใจซึ่งสามารถอธิบายแนวทางได้ดังนี้ 1.ความสุขทางกายมีคำกล่าวว่าเมื่อจิตผ่องใส ก็เปรียบได้ดั่งโอสถทิพย์ ซึ่งเป็นยาอายุวัฒนะ เพราะการปรับสมดุลของระบบต่าง ๆ ภายในร่างกาย ทั้งระบบหายใจ ระบบไหลเวียนโลหิตและระบบภูมิคุ้มกันร่างกาย อันเกิดจากการสวดมนต์ ไหว้พระ และนั่งสมาธิอย่างสม่ำเสมอ ผู้ปฏิบัติก็จะมีจิตที่สว่าง อารมณ์ผ่องใส ไม่ตึงเครียดและสามารถคิดและตัดสินใจได้อย่างมีเหตุผล เมื่อร่างกายเกิดสมดุล ฮอร์โมนต่าง ๆ ก็จะทำหน้าที่อย่างมีประสิทธิภาพและช่วยให้มีอายุยืนยาว 2.ความสุขทางใจเกิดจากจิตใจที่ฝึกฝนจนเข้มแข็ง มีสติและไม่อ่อนไหวไปตามอารมณ์ความรู้สึกโดยง่าย นานไปจะเกิดสมาธิและปัญญาในที่สุด นั่นหมายถึงระบบการคิดที่มีสติคอยกำกับ เมื่ออารมณ์มั่นคงก็จะมีสมาธิและเหตุผล ไม่โกรธและไม่โมโหง่าย…
ธุรกิจขนาดเล็กสร้างสมดุลระหว่างชีวิตและการทำงานได้อย่างไร
คนที่เพิ่งเริ่มต้นธุรกิจขนาดเล็กทุ่มเทเวลาไปกับการทำงานหนักจนกระทั่งไม่มีเวลาส่วนตัว ไม่สามารถแบ่งเวลาให้ครอบครัวและเพื่อนฝูง เป็นที่ทราบกันดีว่าการเริ่มต้นธุรกิจมีความรับผิดชอบมากมายเพื่อให้ประสบความสำเร็จตามความฝันซึ่งทำลายสมดุลระหว่างชีวิตและงาน ในหนึ่งวันอาจมีเวลาเพียงไม่กี่ชั่วโมงแต่เราทำหลายอย่างในคราวเดียวกันได้ ไม่เพียงบริหารจัดการเวลาได้เหมาะสมเท่านั้น แต่ยังช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการทำงาน สามารถทำกิจกรรมกับเพื่อนและครอบครัวและทำงานอดิเรกที่ชื่นชอบเพื่อเติมเต็มชีวิตไม่ให้คิดถึงตลอดวันและคืนจนเหมือนไม่มีเวลาเลิกงาน 1.กำหนดขอบเขตและชั่วโมงการทำงานการบริหารเวลาเป็นเคล็ดลับอย่างหนึ่งของความสำเร็จ ถึงจะเป็นเจ้าของธุรกิจขนาดเล็กก็ยังต้องให้ความสำคัญกับการตั้งกฎกติกาการแบ่งเวลาอย่างเหมาะสม ก่อนอื่นต้องเข้าใจว่าการสร้างสมดุลระหว่างการทำงานและชีวิตส่วนตัวขึ้นอยู่กับเป้าหมายและลำดับความสำคัญ จึงไม่มีตารางเวลาที่สมบูรณ์แบบ ไม่มีแบบแผนตายตัว นายจ้างไม่จำเป็นต้องแบ่งชั่วโมงในแต่ละวันให้เท่า ๆ กัน ความเหมาะสมขึ้นอยู่กับความต้องการของแต่ละคน คนหนึ่งอาจตั้งใจทำงานครึ่งวันผลงานออกมามีประสิทธิผลมากและเลิกงานก่อนเพื่อใช้เวลาอีกครึ่งวันกับเพื่อนและครอบครัว แต่วิธีเป็นไปไม่ได้กับคนอื่นๆ 2.สุขภาพเป็นเรื่องสำคัญการทำงานให้ประสบความสำเร็จต้องมีสุขภาพร่างกายและจิตใจที่แข็งแรง หากรู้สึกวิตกกังวลหรือภาวะซึมเศร้าเพราะทำงานหนักเกินไปรู้สึกหมดแรงไม่ดีต่อสุขภาพ ความเหน็ดเหนื่อยและความเครียดเรื้อรังส่งผลกระทบต่องานอย่างแน่นอน ควรจัดลำดับสุขภาพเป็นสิ่งสำคัญอันดับแรก หากไม่ชอบงานที่ทำความเปลี่ยนงานใหม่ การทำงานอย่างมีความสุขจะมีประสิทธิผลมากขึ้น แนะนำให้ทำสมาธิทุกวัน ออกกำลังกาย และเพิ่มวันหยุดมากขึ้น ไม่จำเป็นต้องหยุดงานนานนับสัปดาห์ บางครั้งสละเวลาเพียงหนึ่งวันถอดปลั๊กทุกอย่างจะช่วยเติมพลังให้ร่างกายและจิตใจ ที่สำคัญคืออย่ากังวลกับงานที่รออยู่ข้างหน้า 3.ช่วงเบรกเวลาผ่อนคลายความเครียดระหว่างเดินทางเป็นอีกช่วงเวลาที่เราถอดปลั๊กตัดขาดจากโลกภายนอกได้เป็นครั้งคราว ไม่ควรหยิบดูอีเมลหรือทำอะไรที่เกี่ยวกับงาน ฝึกใช้เวลานั้นอ่านหนังสือ เล่นเกม ท่องอินเทอร์เน็ต ฟังเพลง หรือทำสิ่งอื่นที่ไม่เกี่ยวกับงานเพื่อคลายความกดดัน ความรู้สึกผ่อนคลายช่วยให้มีพลังมากขึ้นและมีอิทธิพลสำคัญต่อความสำเร็จ 4.หาเวลาให้ตัวเองและคนที่รักแม้ว่าธุรกิจจะรัดตัวขนาดไหนก็ไม่ควรทำงานตลอดทั้งวัน ต้องกำหนดเวลาพักผ่อน ทำกิจกรรมหรืองานอดิเรกร่วมกับครอบครัวและเพื่อน ไม่ว่างานจะยุ่งแค่ไหนต้องไม่ละเลยความสัมพันธ์ส่วนตัว อย่าให้คำว่าไม่มีเวลาหลุดปากออกมาเด็ดขาด เมื่อมีวินัยกับการทำงานแล้ว ต้องมีวินัยกับเวลาพักผ่อนเช่นกันเพื่อที่จะควบคุมชีวิตและการทำงานได้ในที่สุด ทุกวันนี้นายจ้างให้พนักงานทำงานจากที่บ้านมากขึ้น ทั้งเรื่องสถานที่และตารางการทำงานมีความยืดหยุ่นกว่าเดิมซึ่งเป็นส่วนสนับสนุนให้พนักงานปรับเวลาทำงานและการใช้ชีวิตสอดคล้องกับความต้องการของแต่ละคนมากขึ้น ความเครียดน้อยลงส่งผลให้สุขภาพและความเป็นอยู่ดีขึ้น วิธีนี้ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานและมีพนักงานที่ซื่อสัตย์มากขึ้นช่วยให้บริษัทรักษาคนเก่งไว้ได้ด้วย
เชื่อหรือไม่ ดื่มน้ำสะอาดวันละ 8 แก้ว ช่วยให้อายุยืนได้
ในยุคนี้ที่โรคอุบัติใหม่รุมเร้า หลายคนหันมายึดแนวทางการดูแลสุขภาพด้วยวิถีธรรมชาติ เน้นการออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอโดยเฉพาะการดื่มน้ำสะอาดเป็นประจำอย่างน้อยวันละ 8-10 แก้ว ทั้งนี้เพื่อประโยชน์ในระยะยาวของการมีสุขภาพดีจากภายใน ซึ่งนอกจากจะทำให้ห่างไกลจากโรคภัยไข้เจ็บแล้ว ยังช่วยให้ผิวพรรณแลดูอ่อนกว่าวัย มีอายุยืนยาว บุคลิกภาพดีและมีความเชื่อมั่นในตนเองเพิ่มมากขึ้น หลายคนอาจสงสัยว่าการดื่มน้ำที่ว่านี้จะช่วยทำให้อายุยืนยาวได้อย่างไร เรามีสาระน่ารู้มาให้ความกระจ่างเกี่ยวกับการดูแลสุขภาพและวิธีดื่มน้ำสะอาดวันละ 8 แก้วเพื่อช่วยให้อายุยืนยาวมาฝากกันค่ะ หลายคนอาจจะกำลังมองหาวิธีดูแลสุขภาพให้แข็งแรงและมีอายุยืนยาว ซึ่งจากการศึกษาวิจัยทางการแพทย์ของมหาวิทยาลัยชั้นนำหลายแห่งพบว่า การปรับจูนทัศนคติด้านบวกให้อารมณ์ดี มองโลกในแง่ดีจะช่วยให้คนเรามีอายุที่ยืนยาวมากขึ้น เพราะอารมณ์ดีจะทำให้จิตใจเป็นสุข เช่นเดียวกันกับการออกกำลังกายอย่างเหมาะสมสม่ำเสมอเป็นประจำ เช่น การออกกำลังแบบแอโรบิก ว่ายน้ำ ขี่จักรยาน เดินเร็วหรือวิ่ง อย่างน้อย 30 นาที สัปดาห์ละ 3 ครั้ง หรือการเดินย่อยหลังจากรับประทานอาหารมื้อละ 10 นาที ก็จะช่วยให้ร่างกายหลั่งสารเอ็นโดรฟิน (Endorphin) ฮอร์โมนที่หลั่งจากต่อมใต้สมองหรือ ‘สารสื่อประสาทแห่งความสุข’ เป็นมอร์ฟีนธรรมชาติที่กลไกของร่างกายหลั่งออกมาเมื่อมนุษย์มีความสุข ผ่อนคลายและพึงพอใจ และช่วยกระตุ้นการสร้างโกรทฮอร์โมน (Growth Hormone) ที่ผลิตขึ้นจากต่อมใต้สมองสู่กระแสเลือด ช่วยเสริมสร้างการเจริญเติบโตของร่างกาย เช่นเดียวกับประโยชน์ที่ร่างกายจะได้รับจากการการดื่มน้ำสะอาดในประมาณที่เพียงพออย่างน้อยวันละ 8-10 แก้ว ทั้งนี้เพราะร่างกายคนเราประกอบด้วยน้ำ 70 เปอร์เซนต์ แบ่งออกเป็น 3 ส่วนได้แก่ น้ำที่อยู่ในเซลล์…
รวมมาให้แล้ว แบรนด์แฟชั่นสัญชาติไทย สุดปัง ดังไกลถึงต่างแดน
หากจะกล่าวถึงแบรนด์เสื้อผ้าระดับโลก เชื่อว่าคนส่วนใหญ่ต้องนึกถึงแบรนด์ต่างชาติดัง ๆ อย่าง Chanel, Burberry, Hermes, Prada, Gucci, Dior, Gianni Versace หรือ Giorgio Armani แต่ในความจริงแล้วแบรนด์แฟชั่นสัญชาติไทยจากฝีมือคนไทยหลายแบรนด์ก็ได้รับความนิยมและโดดเด่นในเวทีแฟชั่นโลกไม่แพ้กัน แต่จะมีแบรนด์ไหนบ้างนั้น วันนี้เรามีคำตอบมาฝาก Poemสำหรับแบรนด์แรกเป็นเจ้าของวลี ‘อยากขึ้นยานแม่ต้องแวร์โพเอ้ม’ กับแบรนด์ Poem ของคุณฌอน-ชวนล ไคสิริ แบรนด์ชุดราตรีออกงานยอดนิยมของเหล่าดาราเซเลบเมืองไทยที่ใส่อวดโฉมกันเวลาออกงานประกาศรางวัล งานเลี้ยง และงานอีเว้นท์ ซึ่งจุดเด่นของแบรนด์นี้อยู่ตรงที่การตัดเย็บแบบฝรั่งเศสภายใต้คอนเซ็ปท์ Modern Glamour ที่เน้นส่วนเว้าส่วนโค้ง อก เอว สะโพกของผู้สวมใส่ได้อย่างชัดเจน คล้ายกับการแต่งกายของสาวยุโรปโบราณ ในขณะที่ภายนอกมีการออกแบบให้ดูทันสมัย ทำให้ผู้สวมใส่ดูสวยสง่า จนได้รับฉายาว่า Killer Dress ของวงการแฟชั่น ASAVAถ้าพูดถึงแบรนด์แฟชั่นไทยแล้วไม่เอ่ยถึง ASAVA ของคุณหมู พลพัฒน์ อัศวะประภา หรือที่หลายคนรู้จักกันในนาม ‘หมู อาซาวา’ ดีไซเนอร์มากความสามารถที่ปลุกปั่นจนแบรนด์ ASAVA โด่งดังระดับโลก แถมยังได้รับความไว้วางใจให้ออกแบบชุดราตรีให้กับสาวงาม มิสยูนิเวิร์สประจำประเทศไทยใส่ไปเดินอวดความงามต่อสายตาชาวโลกอย่างต่อเนื่อง สำหรับแนวเสื้อผ้าจากแบรนด์…
กฎเหล็ก 3 ข้อ ดูดวงให้แม่นไม่มีมั่ว
คงเป็นเรื่องดีไม่น้อยที่คนเราจะสามารถรู้โชคชะตาชีวิตล่วงหน้าได้ เพราะจะได้เอาเวลาที่มีเหลืออยู่ในปัจจุบันไปเตรียมตัวรับมือกับเรื่องที่จะเกิดขึ้นในอนาคต ด้วยเหตุนี้การดูดวงจึงกลายเป็นกิจกรรมยามว่างที่สาว ๆ ส่วนใหญ่มักเลือกที่จะทำ และก็คงหนีไม่พ้นเรื่องหลัก ๆ อย่าง การเงิน การงาน สุขภาพ และก็เรื่องของความรัก แต่เรื่องประเภทนี้ก็ไม่เคยมีใครออกมาการันตีด้วยหลักการและเหตุผลได้อย่างชัดเจน ว่าจะเกิดขึ้นในอนาคตอย่างแน่นอน การดูดวงจึงกลายเป็นความเชื่อของแต่ละบุคคลเสียมากกว่า หากหมอดูทำนายทายทักได้อย่างตรงเป๊ะ ก็จะได้รับคำกล่าวขานว่าแม่นเป็นอย่างมาก แต่หากหมอดูเอ่ยปากออกมาไม่ตรงกับความจริง ก็จะกลายเป็นความมั่วของหมอดูไปโดยปริยาย ดังนั้นการดูดวงให้แม่นยำและผลอย่างตรงมากที่สุด ต้องเป็นการดูดวงภายใต้กฎเหล็ก 3 ข้อ ดังนี้ อย่างมงาย – ไม่เชื่อก็ต้องเชื่อ ว่าปัจจุบันมีคนประเภทที่งมงายกับการดูดวงเป็นอย่างมาก เพราะใจเขาผูกติดกับคำทำนายที่ชี้นำไปในแนวทางบวกเท่านั้น หากมีหมอไหนทำนายทายทักไปในทางลบ ก็จะต้องรีบหาหมออื่นมาทำนายใหม่อย่างทันที ทั้งหมดทั้งมวลก็มิใช่เพื่ออื่นใดนอกเหนือจากความสบายใจของตัวเองเท่านั้น รู้เพื่อเป็นแนวทาง – จริง ๆ แล้วการดูดวงไม่ใช่การทำนายเส้นทางชีวิตอนาคตข้างหน้าได้อย่างชัดเจน แต่เป็นการชี้แนะแนวทางการดำเนินชีวิตอนาคตข้างหน้าเสียมากกว่า เช่น หมอดูทายทักว่าจะมีปัญหาด้านสุขภาพ คำทักของหมอดูนี้เองที่จะเป็นตัวกระตุ้นให้หันมาดูแลใส่ใจร่างกายมากยิ่งขึ้น และเมื่อร่างกายแข็งแรงก็เท่ากับว่ามีสุขภาพที่ดีนั่นเอง ต้องมีสติ – ตัวการสำคัญที่สุดของการดูดวงคือ ต้องมีสติ ต้องรู้จักแยกแยะให้ออกว่าควรจัดการกับความคิด ความรู้สึกต่อคำทำนายทายทักของหมอดูอย่างไร ถ้าหมอดูทักในแง่ดีก็สบายใจไป แต่หากทักในทางร้ายก็จะกลายเป็นการเอาจิตใจไปผูกกับคำทำนายร้าย ๆ นั้นตลอดเวลา ท้ายที่สุดก็จะพาลเสียการเสียงานไปเพราะความสติหลุดนี้นั่นเอง อย่างที่บอกไปข้างต้นแล้วว่า การดูดวงถือเป็นความเชื่อส่วนบุคคล…
วิธีคิดนอกกรอบ จุดประกายความคิดสร้างสรรค์ใหม่ให้กับชีวิต
กรอบความคิดมี 3 ระดับ คือ หนึ่ง ระดับตัวเอง ซึ่งหลายคนได้ทำอะไรตั้งแต่เด็กและติดการทำสิ่งนั้นตลอดมาจนไม่สามารถคิดอะไรใหม่ ๆ ได้ สอง ระดับองค์กร บางคนได้ออกนอกกรอบความคิดตัวเองและเริ่มมีความคิดสร้างสรรค์ใหม่ ๆ และจะนำไปเสนอแต่ไปติดที่นโยบายขององค์กรหรืออาจจะติดในเรื่ององค์กรไม่มีงบประมาณเพียงพอ สาม ระดับสังคม บางคนได้ออกนอกกรอบทั้งระดับตัวเองและระดับองค์กรแล้ว แต่จะติดกรอบความคิดของสังคมเพราะสิ่งที่นำเสนอเป็นสิ่งที่สังคมยังไม่พร้อมที่จะยอมรับ จึงเป็นอุปสรรคในการพัฒนา ด้วยเหตุนี้ เราจึงมีตัวอย่างพร้อมวิธีคิดนอกกรอบเพื่อสร้างความคิดสร้างสรรค์ให้กับชีวิตคุณ ดังต่อไปนี้ ตัวอย่างการคิดนอกกรอบ ตัวอย่างที่ 1 ผู้ประกอบการรายหนึ่งได้มองเห็นช่องทางการทำธุรกิจใหม่เกี่ยวกับรถแท็กซี่ ซึ่งจากเดิมรถแท็กซี่ส่วนใหญ่ ไม่อยากรับผู้โดยสารที่พาสัตว์เลี้ยงเนื่องจากได้สร้างกลิ่นให้กับรถแท็กซี่และเล็บของสัตว์เลี้ยงยังไปทำลายเบาะให้เกิดความเสียหายทำให้ผู้ประกอบการรายนี้จึงมีความคิดนอกกรอบ ด้วยการสร้างรถแท็กซี่ที่มีการรับส่งสัตว์เลี้ยงโดยเฉพาะ ไม่ว่าจะพาสัตว์เลี้ยงไปโรงพยาบาลหรือสถานที่ต่าง ๆ ซึ่งลักษณะการดีไซน์ของรถแท็กซี่ จะมีส่วนที่นั่งผู้โดยสารแยกออกจากส่วนที่เป็นสัตว์เลี้ยง เมื่อแบ่งส่วนอย่างชัดเจน ก็จะทำให้ส่วนของสัตว์เลี้ยงโดยสารมีช่องระบายอากาศ ไม่มีการสะสมของกลิ่นและยังทำให้รักษาความสะอาดได้ หลังจากที่มีความคิดสร้างสรรค์ เขาก็เริ่มเปิดบริการรับส่งสัตว์เลี้ยง ปรากฏว่า มีคนต้องการใช้บริการเป็นจำนวนมากทำให้มีรายได้ดีจนต้องขยายกิจการ ตัวอย่างที่ 2 สังคมผู้หญิงไทยในอดีตไม่ได้รับการศึกษา แต่ให้อยู่บ้านเพื่อเป็นแม่บ้าน เมื่อสังคมได้มีการพัฒนามากขึ้น ก็จะมีการออกจากกรอบเดิมทำให้มีโอกาสการศึกษาและไปทำงานนอกบ้าน ส่งผลดีต่อการพัฒนาสังคม เศรษฐกิจและประเทศให้มีความเจริญมั่นคง ซึ่งเป็นการสร้างคุณประโยชน์มากมายเลยทีเดียว วิธีคิดนอกกรอบ วิธีที่ 1 ถามใจตัวเองว่า มีความกลัวหรือไม่ ความกลัวทำให้ไม่กล้านำเสนอไอเดียใหม่…
ขายรองเท้าแฟชั่น เพิ่มยอดขายได้ด้วยการทำ SEO ให้กับเว็บไซต์
การทำ SEO ให้กับเว็บไซต์ ตามที่ Google แนะนำ มีประโยชน์ช่วยเพิ่มยอดขายสินค้าและบริการได้ และทำให้มีลูกค้าประจำที่ช่วยบอกต่อในวงกว้างได้มากขึ้นด้วย เรามาดูกันว่าคุณจะเพิ่มลูกค้าและยอดขายจากการทำ SEO ให้กับเว็บไซต์รองเท้าแฟชั่นได้อย่างไร การขายรองเท้าแฟชั่นถือว่ามีการแข่งขันทางการตลาดที่สูง มีราคาตั้งแต่คู่ละ 100 บาทจนถึงหลายพันบาท แล้วแต่การออกแบบแบรนด์ยี่ห้อ และเทรนด์ความนิยม ดังนั้นหากคุณต้องการที่จะเข้าถึงลูกค้าให้ได้มากขึ้น เพื่อเพิ่มกำไร และเพิ่มลูกค้าที่ช่วยกันบอกต่อ ก็ต้องทำ SEO ให้กับเว็บไซต์ เพื่อให้ธุรกิจของคุณถูกแสดงในหน้าจอ SERPs หรือ search engine result pages ได้ง่ายขึ้น Google กับคนรุ่นใหม่ Google นับเป็นช่องทางที่กลุ่มคนรุ่นใหม่และคนที่รักแฟชั่นนิยมใช้ในการหาข้อมูลซื้อสินค้าในชีวิตประจำวัน การทำ SEO ให้กับเว็บไซต์ จึงเป็นช่องทางที่ดีที่สุดในการทำธุรกิจออนไลน์ในยุคปัจจุบันให้ประสบความสำเร็จ หากคุณไม่สามารถที่จะทำด้วยตัวเอง ก็สามารถที่จะจ้างบริษัทในการทำ SEO ได้ โดยเฉพาะเรื่องการจ้างทำบทความ SEO ที่มีคุณภาพ โดยการใช้ keyword ที่เหมาะสม ซึ่งผู้ทำบทความ SEO มืออาชีพจะดูสถิติการสืบค้นของกลุ่มคนที่ใช้ Google จากระบบของ Google…
แฟชั่นจากขยะ เทรนด์ที่มาแรงในยุค 2020
เคยสังเกตไหมว่าเสื้อผ้า, กระเป๋า, รองเท้า และเทรนด์แฟชั่นต่าง ๆ จะมี Theme เกี่ยวกับการ Recycle หรือการ Re-use เข้ามาเกี่ยวข้องมากขึ้น และดูเหมือนว่าแฟชั่นที่มาในแนวนี้จะได้กระแสตอบรับดีมากด้วยเช่นกัน นั่นเป็นเพราะสอดคล้องกับเทรนด์ รักษ์โลก หรือ รักษ์สิ่งแวดล้อม ที่มาแรงตลอดช่วงหลายปีที่ผ่านมา แต่ล่าสุดมีแฟชั่นอีกแนวที่เกาะกระแสรักษ์สิ่งแวดล้อมแบบสุดขั้ว ไม่ได้นำวัสดุมา Recycle ไม่ได้ใช้ซ้ำวัสดุ หากแต่ได้นำขยะมาสร้างสรรค์ให้เป็นของตกแต่ง, เสื้อผ้า, กระเป๋ากลายเป็นแฟชั่นจากขยะซึ่งเรียกกันว่า Trashion ซึ่งเป็นศัพท์ที่มาจากการผสมคำว่า Trash กับ Fashion เป็นศัพท์ที่เพิ่งมีการพูดกันเมื่อประมาณ 4-5 ปีที่ผ่านมานี่เอง โดยเป็นแนวแฟชั่นที่มุ่งเน้นลดปริมาณขยะให้กับโลก เส้นทางจากขยะสู่แฟชั่น แรกเริ่มเดิมที การนำขยะมาสร้างสรรค์ตบแต่งให้สวยงามจะออกมาในรูปของงานศิลปะ แนวประชดประชันการทำลายสภาพแวดล้อมและความมักง่ายของผู้คน เช่น การนำขยะจากทะเลมาสร้างเป็นผลงานศิลปะ ก่อนนำมาจัดแสดง ต่อมาเริ่มมีการนำขยะมาเป็นเครื่องประดับตกแต่งให้สามารถใช้งานหรือสวมใส่ได้จริง อาทิ การทำกระเป๋าถือจากฝากระป๋องน้ำอัดลม, การนำขวดน้ำมาประดิษฐ์เป็นโคมไฟตกแต่งบ้าน หรือการนำแห-อวนสำหรับจับปลามาทำเป็นเสื้อผ้าสำหรับสวมใส่ เป็นต้น และเป็นจุดขายของสินค้าหลายแบรนด์ดังที่ผู้คนทั่วโลกหลงเสน่ห์ในขณะนี้ ไม่ว่าจะเป็นเสื้อผ้าแบรนด์ดังจากสเปนที่สร้างเสื้อผ้าแฟชั่นจากวัตถุดิบที่เป็นขยะทั้ง 100 %, กระเป๋ายี่ห้อดังที่ใช้ผ้าใบของรถบรรทุกมาเป็นวัตถุดิบกลายเป็นแบรนด์สุดฮิตของวัยรุ่นวัยเก๋าทั่วโลก รวมถึงผู้ผลิตเคมีภัณฑ์ในประเทศไทยเองก็ได้หันมาร่วมกระแสนี้กับโครงการ Upcycling the…
นิสัยที่ควรบ่มเพาะหากอยากประสบความสำเร็จในชีวิต
การจะประสบความสำเร็จในชีวิตได้นั้น นอกจากการได้รับโอกาสดี ๆ ที่เข้ามาสู่ตัวของเราแล้วอย่างต้องขึ้นกับอุปนิสัยที่เราทำเป็นประจำ เพื่อที่จะให้มีการพัฒนาศักยภาพ เพิ่มความสามารถให้มากขึ้นอย่างรอบด้าน นักจิตวิทยาได้แนะนำว่าอุปนิสัยที่ควรบ่มเพาะ เพื่อก้าวสู่การเป็นผู้ประสบความสำเร็จที่ทุกคนควรฝึกฝน มีดังนี้ 1. การช่างสังเกตและตั้งคำถาม การสังเกตสิ่งเล็กน้อยเป็นทักษะพื้นฐานในการที่จะทำให้เกิดการตั้งคำถามใหม่ ๆ เพื่อคิดหาคำตอบ อันอาจเป็นช่องทางในการพัฒนางานให้ดียิ่งขึ้นได้ นวัตกรรมเทคโนโลยีจำนวนมากในปัจจุบัน ก็มาจากการสังเกตและตั้งคำถาม ทำให้เกิดการคิดค้นสิ่งประดิษฐ์ต่าง ๆ อย่างต่อเนื่องจนถึงทุกวันนี้ ผู้ที่ทำงานสายครีเอทีฟ ที่ต้องใช้ความคิดสร้างสรรค์ หรือสายงานด้านโฆษณาที่ต้องการสร้างผลงานที่เข้าถึงคุณลูกค้า ยิ่งต้องฝึกฝนคุณสมบัตินี้ให้มาก 2. ความรักและทุ่มเทในงาน คนจำนวนไม่น้อยเลือกทำงานที่ให้ค่าตอบแทนสูง หรือทำตามค่านิยมสังคม ซึ่งอาจไม่ใช่งานที่รักจึงความกระตือรือร้นที่อยากจะทำให้ดีในช่วงเวลาสั้น ๆ เท่านั้น ไม่สามารถทุ่มเทอย่างต่อเนื่อง เพื่อให้งานเติบโตพัฒนาได้ยาวนานเท่าที่ควร การเลือกทำสิ่งที่รักและใส่ใจในงานอย่างสม่ำเสมอจึงจำเป็นที่จะทำให้สั่งสมประสบการณ์เข้าสู่ระดับความเป็นมืออาชีพในงานนั้น ๆ 3. ความอดทนไม่ย่อท้อต่ออุปสรรค การไม่ย่อท้อเป็นคุณสมบัติสำคัญที่จะทำให้ฟันฝ่าอุปสรรคในทุกสายงานได้ คนเรามักมองผลลัพธ์ของคนที่ประสบความสำเร็จแล้ว แต่ลืมคิดว่าความสำเร็จที่ยิ่งใหญ่ทุกสายงาน ล้วนเริ่มมาจากจุดกำเนิดเล็ก ๆ ที่ต้องใช้ระยะเวลาในการพัฒนาเรียนรู้ แก้ไขปัญหา ทั้งยังต้องพร้อมรับมือกับความเปลี่ยนแปลง หรือการปรับตัวให้เข้ากับสถานการณ์แวดล้อมที่เปลี่ยนแปลงไปตลอดเวลาด้วย จึงจะได้ผลลัพธ์ที่คุ้มค่า ดังนั้นผู้ที่ต้องการประสบความสำเร็จจึงต้องมีความอดทนสู้งานหนักทุกประเภท 4. การมีมนุษยสัมพันธ์ที่ดี แต่ละคนจะไม่สามารถทำงานทุกอย่างได้ในเวลาเดียวกัน และไม่มีใครที่มีความเก่งรอบด้าน เราจึงต้องมีการทำงานเป็นทีม ซึ่งการมีมนุษยสัมพันธ์ที่ดีกับเพื่อนร่วมงาน เจ้านายและลูกน้อง…