หลังจากที่แบรนด์ Samsung ได้เปิดตัวสมาร์ทโฟนเรือธงรุ่นใหม่อย่าง Galaxy S23 Ultra ไปเมื่อไม่นานมานี้ ล่าสุดทาง Samsung ก็ได้หันไปจับมือกับแบรนด์รถยนต์สุดหรูอย่าง BMW ออกแบบมือถือ Galaxy S23 Ultra ที่มากับธีมรถยนต์แบรนด์ BMW พร้อมกล่อง Box Set ดีไซน์ฝากระโปรงรถสุดเท่ที่ด้านในมีของแถมสุดลิมิเต็ดมากมาย ส่วนจะมีอะไรกันบ้าง ลองไปติดตามกันได้เลย
แกะกล่อง Galaxy S23 Ultra รุ่น BMW M Edition
สำหรับ Galaxy S23 Ultra รุ่น BMW M Edition มาพร้อมกล่อง Box Set รูปทรงฝากระโปรงรถ BMW โทนสีแดง, ขาว และน้ำเงิน โดดเด่นด้วยป้ายทะเบียนรถสีขาวที่พิมพ์คำว่า “ULTIMATE G23” เมื่อเปิดฝากระโปรงรถขึ้นมาก็จะพบตัวเครื่อง Galaxy S23 Ultra, เคสมือถือลาย BMW, พวงกุญแจที่มีโลโก้ BMW พร้อมป้ายโลโก้แบบอื่น ๆ ที่สามารถถอดเปลี่ยนกับพวงกุญแจได้, นาฬิกาอะนาล็อกขนาดเล็กสำหรับตั้งในรถ, สมุดภาพและโปสเตอร์ BMW และสติ๊กเกอร์
สเปกของ Galaxy S23 Ultra รุ่น BMW M Edition
สำหรับ Galaxy S23 Ultra รุ่น BMW M Edition ยังคงใช้สเปกแบบเดียวกับ Galaxy S23 Ultra รุ่นธรรมดา โดยมาพร้อมหน้าจอแสดงผลแบบ Dynamic AMOLED 2X กว้าง 6.8 นิ้ว คมชัดระดับ 2K+ มีค่าความหนาแน่นเม็ดพิกเซลสูงถึง 500 nits รีเฟรชเรท 120Hz รองรับการแสดงผล HDR10+ ปรับความสว่างได้สูงสุด 1,750 nits ครอบด้วยกระจก Gorilla Glass Victus 2 ขับเคลื่อนการทำงานด้วยระบบปฏิบัติการ Android 13 ครอบด้วย One UI 5.1 แต่ที่พิเศษคือ UI และแอนิเมชั่นเคลื่อนไหวภายในเครื่องจะเปลี่ยนเป็นธีม BMW ใช้ชิปประมวลผล Snapdragon 8 Gen 2 ขนาด 4 นาโนเมตร ให้ขุมพลังแรง 3.36GHz ทำงานร่วมกับหน่วยความจำ RAM ขนาด 12GB และมีพื้นที่เก็บข้อมูลภายในความจุ 256GB พร้อมแบตเตอรี่ขนาด 5,000mAh รองรับระบบชาร์จไว 45W แบบ PD3.0 สามารถชาร์จแบตจาก 0 – 65% ภายในเวลาแค่ครึ่งชั่วโมงเท่านั้น พ่วงระบบชาร์จไร้สายที่ 15W
สเปกกล้องของ Galaxy S23 Ultra รุ่น BMW M Edition
ในส่วนของการถ่ายภาพมาพร้อมกล้องหลัง 4 ตัว ความคมชัด 200MP+10MP+10MP+12MP พ่วงระบบ Dual Pixel, PDAF, Laser AF และ OIS สามารถบันทึกวิดีโอความคมชัดระดับ 8K ที่ 30fps มีกล้องหน้าความคมชัด 12MP ที่ใช้ดีไซน์แบบเจาะรูตรงกลางด้านบนหน้าจอ สามารถบันทึกวิดีโอความคมชัด 4K ที่ 30fps รองรับการเชื่อมต่อครบครันทั้ง 5G, Wi-Fi6E, Bluetooth 5.3, NFC และ USB Type-C 3.2
กำหนดการวางจำหน่าย
สำหรับ Galaxy S23 Ultra รุ่น BMW M Edition จะออกวางขายทั่วโลกในวันที่ 17 กุมภาพันธ์ ที่จะถึงนี้ โดยมีจำนวนจำกัดเพียง 1,000 เครื่องเท่านั้น ส่วนราคาอยู่ที่ 1,727,000 วอน หรือประมาณ 45,xxx บาท แต่สำหรับในบ้านเรายังต้องรอติดตามข่าวจากทาง Samsung ว่าจะมีการนำเข้ามาทำตลาดกับเขาด้วยหรือไม่