งานศพเป็นงานเศร้าที่เราไม่อยากให้มันเกิดขึ้น แต่เมื่อหลีกเลี่ยงไม่ได้เราลองมามองหามุมบวกจากการไปงานศพ เราไปงานศพทำไม เราได้เรียนรู้อะไรจากงานประเภทนี้บ้าง
การจัดงานศพเป็นพิธีทางศาสนาเพื่อเป็นการให้เกียรติ แสดงความอาลัยรัก และเป็นการสร้างบุญกุศลให้กับผู้วายชนม์เป็นครั้งสุดท้าย เป็นการเปิดโอกาสให้ญาติพี่น้อง เพื่อน และบุคคลที่เกี่ยวข้องได้มีโอกาสร่วมแสดงความอาลัยรัก งานศพยังเป็นโรงเรียนสอนชีวิตของคนเป็น ทุกครั้งที่ไปงานศพจึงควรเตรียมตัว เตรียมใจไปร่วมงานด้วยความตั้งใจ เปี่ยมไปด้วยความปรารถนาดี การไปงานศพเราไปเพื่อให้กำลังใจคนเป็น นั่นคือญาติพี่น้องที่ยังมีชีวิตอยู่ เราได้รับ และเรียนรู้อะไรจากการไปงานศพบ้าง
เป็นการแสดงมุทิตาจิต การที่เรามีส่วนทำให้คนอื่นเป็นสุขขึ้นถือเป็นการให้ทานอย่างหนึ่งที่เรียกว่าเป็นธรรมทาน ผู้เป็นสุขคือญาติพี่น้องที่กำลังรอกำลังใจจากผู้ไปเยือน การไปร่วมกันแสดงความอาลัยเป็นจำนวนมากสร้างความอบอุ่น ปิติ และพลังใจให้กับเจ้าภาพเป็นอย่างมาก สุขที่เกิดขึ้นจากมิตรภาพนี้ทำให้จิตใจที่บอบช้ำกลับมาเข้มแข็งเร็วขึ้น และแน่นอนว่า ผู้ให้สุขย่อมเกิดสุขกว่า
เข้าใจชีวิตเตือนให้ใช้ชีวิตอย่างรู้คุณค่า ก้มกราบศพแล้วสบตากับภาพหน้าศพ การจากไปของคนในภาพกระตุ้นให้เกิดการทบทวนในการใช้ชีวิต ทำให้รู้จักปล่อยวาง และมีแรงผลักให้กลับมาปรับปรุงการใช้ชีวิตอย่างรู้ค่า ไม่ประมาท เรียนรู้การป้องกัน ระมัดระวังตัวเองมากขึ้น ลดละความโกรธ ความเกลียด อยากขอโทษ อยากให้อภัย เพราะความตายที่สอนเราอยู่ตรงหน้านั้นบอกเราว่า อยากจะทำอะไรให้รีบทำเพราะเราไม่รู้ว่าเราทุกคนจะมีวันพรุ่งนี้หรือไม่ วันและเวลาที่สำคัญที่สุดจึงคือ เวลาในปัจจุบัน การเรียนรู้ในเรื่องเหล่านี้จะนำพาสู่การปฏิบัติตนที่อ่อนโยนต่อกัน
ได้เรียนรู้ข้อธรรมคำสอน วัดหลายแห่งมีการเทศน์สอนข้อธรรมที่เกี่ยวกับความตาย การมีชีวิตอยู่ ความกตัญญูรู้คุณ ฯลฯ ข้อธรรมเหล่านี้ช่วยให้ข้อคิดเตือนใจให้เราประพฤติปฏิบัติต่อคนที่เรารักงดงามมากขึ้น
เป็นการแสดงน้ำใจ งานศพเป็นงานที่แขกสมัครใจมาร่วมงานด้วยตัวเอง ไม่ใช่งานที่เจ้าภาพเรียนเชิญโดยตรง ดังนั้นแขกที่มาในงานจึงล้วนแล้วแต่เป็นคนที่รัก และอาลัยกับการจากไปของผู้วายชนม์ และมีความรัก เอื้ออาทรกับครอบครัวผู้วายชนม์อย่างจริงใจ คนที่มาร่วมงานศพจึงถือเป็นกลุ่มคนที่เปี่ยมน้ำใจไมตรี
ในการไปงานศพครั้งต่อไปลองเตรียมตัวไปงานศพอย่างมีสติ ไปเพื่อเข้าห้องเรียนรู้ และพร้อมแสดงมุทิตาจิตกับครอบครัวผู้วายชนม์อย่างเต็มที่ และได้ข้อคิดในการดำเนินชีวิตกลับมาสอนตัวเราให้สามารถดูแล ประคับประคองชีวิตต่อไปได้อย่างมีคุณภาพ อย่าปล่อยให้การตายที่เราเห็นตรงหน้ามีความหมายเพียงความโศกเศร้า อย่าปล่อยให้ช่วงเวลานี้สูญเปล่าโดยไม่ได้เรียนรู้อะไรจากมัน