ในปี 2019 ผู้เชี่ยวชาญแนะนำว่าทุกคนต้องจับตาดูการเคลื่อนไหวของประเทศมหาอำนาจอย่างนโยบายทางการค้าการลงทุนของประเทศจีนและสหรัฐอเมริกา เนื่องจากจะกระทบต่อภาวะเศรษฐกิจโลกและเศรษฐกิจไทยอย่างมาก การติดตามข่าวสารอย่างใกล้ชิดจะมีประโยชน์ เพื่อให้ทุกคนปรับตัวให้เข้ากับสถานการณ์ได้อย่างรวดเร็วขึ้น
ผู้เชี่ยวชาญทางด้านการเงินการธนาคารได้วิเคราะห์ในประเด็นที่น่าสนใจ ที่ทุกคนควรรู้ ดังนี้
1. ปัจจุบัน ภาวะเศรษฐกิจโลกอยู่ในช่วงชะลอตัว โดยให้ดูจากค่าราคาน้ำมันล่วงหน้าและดัชนีในการผลิตที่มีระดับลดลงมา เมื่อเปรียบเทียบกับจุดสูงสุด ลดลงมากถึง 20 เปอร์เซ็นต์ ขณะเดียวกันดัชนี OECD Leading Indicators ก็ได้ส่งสัญญาณเตือนถึงการชะลอตัวเช่นเดียวกัน
2. ภาวะเศรษฐกิจโลกที่มีผลอย่างมากต่อการชะลอตัวของค่าตัวเลขในข้อ 1 ก็คือภาวะความขัดแย้งระหว่างสหรัฐอเมริกาและประเทศจีน ที่ทำให้เกิดการกดดันทางการค้า ทำให้ส่งผลเสียต่อดัชนีหุ้นในประเทศจีน ทำให้ภาวะความมั่นคั่งของชาวจีนกลุ่มที่ลดลง จึงส่งผลต่อการท่องเที่ยวของประเทศไทยไปด้วย
3. สินค้าการเกษตร เช่น ข้าวและมันสำปะหลังของไทย จะยังอยู่ในช่วงที่รับมือได้ แต่สินค้าประเภทยางพารา อ้อยและน้ำมันปาล์ม ซึ่งเกี่ยวข้องกับราคาน้ำมันเชื้อเพลิง ยังถดถอย ไม่สามารถฟื้นตัวได้เร็วนัก การลงทุนในธุรกิจ เกษตรกรรมประเภทนี้ จึงต้องระมัดระวังอย่างมาก
4. ความเสี่ยงเรื่องภาวะฟองสบู่แตก โดยเฉพาะสินค้าประเภทรถยนต์และคอนโดมิเนียม เนื่องจากว่ามีการวิเคราะห์ว่ามีกลุ่มลูกหนี้สูญประเภท NPL จากบัตรเครดิตสูงถึง 2.5% และค่า NPL จากการซื้อรถสูงถึง 1.5 เปอร์เซ็นต์ และกลุ่ม NPL จากอสังหาริมทรัพย์ สูงที่สุดคือ 3.5% หากมีการซื้อสินค้ามาเก็งกำไรในหมวดที่กล่าวมาจึงต้องระวังอย่างมาก
5. การท่องเที่ยว ยังมีการเติบโตได้เนื่องจากมีการประชาสัมพันธ์และก็มีการผลักดันโครงการต่าง ๆ เช่น การสร้างเส้นทางรถไฟสายต่าง ๆ สนามบิน ท่าเรือที่ส่งผลดีต่อความสะดวกในการเดินทาง (แต่ก็ยังมีปัญหาเรื่องของงบประมาณที่เบิกได้ล่าช้าบ้าง)
ทั้งนี้ ในด้านการท่องเที่ยวนั้น ผู้เชี่ยวชาญแนะนำว่าต้องให้ความสำคัญที่ลูกค้ากลุ่มใหม่ ๆ ที่สนใจเรื่องของศิลปะวัฒนธรรมและวิถีชีวิตของคนในชุมชน
จะเห็นได้ว่า การผันผวนของเศรษฐกิจโลก โดยเฉพาะภาวะความขัดแย้งระหว่างประเทศมหาอำนาจ เช่น จีนและสหรัฐอเมริกา จะส่งผลกระทบโดยรวมต่อเศรษฐกิจของประเทศอื่น ๆ ทั่วโลก โดยเฉพาะเรื่องมาตรการทางภาษีและการกีดกันทางการค้า
นอกจากนี้ ภาวะหนี้ NPL หรือความเสี่ยงต่อภาวะฟองสบู่แตกจากนโยบายการบริหารในประเทศในช่วงหลายปีที่ผ่านมา ก็เป็นสิ่งที่สำคัญต่อภาวะเศรษฐกิจในไทยที่ทุกคนควรวางแผนในการใช้จ่ายเงินอย่างรัดกุม และต้องพิจารณาให้ดีก่อนการลงทุนด้านใด ๆ เพิ่มเติม