สำเนาบัตรประชาชนนั้นมีความจำเป็นอย่างยิ่ง โดยเฉพาะการทำธุรกรรมการเงิน ไม่ว่าจะเป็นการขอสินเชื่อ การสมัครงาน การทำเรื่องเบิกเงิน ฯลฯ ต่างจำเป็นต้องใช้สำเนาบัตรประชาชนเป็นหลักฐานด้วยกันทั้งสิ้น เพราะนี่คือหลักฐานยืนยันตัวตนบุคคลนั้น ๆ จึงทำให้สำเนาบัตรประชาชนเป็นเอกสารที่ถูกร้องขอหากติดต่อกับหน่วยงานต่าง ๆ โดยต้องมีลายเซ็นเจ้าของบัตรกำกับเอาไว้ แต่หากเซ็นกำกับไว้ไม่รัดกุม แน่นอนว่าอาจเป็นช่องโหว่ให้มิจฉาชีพนำไปใช้งานอย่างไม่ถูกต้องก็เป็นได้ เซ็นบัตรประชาชนอย่างไรให้ปลอดภัยจากมิจฉาชีพ 1.ระบุรายละเอียดและวัตถุประสงค์การใช้งานอย่างชัดเจนการเขียนกำกับถึงวัตถุประสงค์การใช้งานบัตรประชาชนถือเป็นสิ่งสำคัญมาก เพราะจะทำให้มิจฉาชีพไม่สามารถนำสำเนาบัตรประชาชนไปใช้งานต่อได้ โดยควรขีดคร่อมทับสำเนาบัตรจำนวน 2 เส้น โดยไม่ต้องทับใบหน้า และเขียนกำกับว่าสำเนาบัตรประชาชนใช้เพื่อวัตถุประสงค์ใด เช่น ใช้ขอสินเชื่อกับธนาคารใด ใช้สมัครงานกับบริษัทใด เป็นต้น ที่สำคัญอย่าลืมระบุวันเดือนปีที่เซ็นกำกับอีกด้วย 2.เขียนรายละเอียดทับสำเนาบัตรประชาชนไปได้เลยการเซ็นสำเนาถูกต้อง การเขียนวัตถุประสงค์การใช้สำเนาบัตรประชาชน รวมถึงการระบุวันเดือนปีที่เซ็นเอกสาร จะช่วยเพิ่มความปลอดภัยในระดับหนึ่งเท่านั้น แต่เพื่อความมั่นใจยิ่งขึ้นควรเขียนรายละเอียดเหล่านี้ทับลงบนหน้าสำเนาบัตรประชาชนไปเลย เพราะหากเขียนกำกับบนพื้นที่ว่าง มิจฉาชีพอาจตัดข้อมูลส่วนนั้นทิ้งอย่างง่ายดาย 3.อัปโหลดภาพบัตรประชาชนผ่านแอปพลิเคชันอย่างปลอดภัยด้วยการใช้ถุงพลาสติกปัจจุบันมีหลายแอปพลิเคชันด้านการเงิน ร้องขอให้ถ่ายรูปบัตรประชาชนและอัปโหลดผ่านช่องทางออนไลน์ ซึ่งการส่งภาพบัตรประชาชนผ่านช่องทางนี้จะปลอดภัยมากขึ้นเพียงนำบัตรประชาชนใส่ถุงพลาสติก จากนั้นเซ็นกำกับบนถุงพลาสติกอีกครั้ง โดยต้องเลือกปากกาที่สามารถเขียนลงบนพื้นผิวพลาสติกได้ ซึ่งวิธีนี้จะช่วยป้องกันการนำภาพบัตรประชาชนไปใช้ในทางไม่ถูกต้อง 4.ห้ามถ่ายเอกสารด้านหลังบัตรประชาชนเด็ดขาดจะสังเกตว่าด้านหลังบัตรประชาชนจะมีตัวเลขจาง ๆ กำกับอยู่ ซึ่งตัวเลขเหล่านั้นเรียกว่า Laser ID ตัวเลขเหล่านี้ทำหน้าที่ยืนยันตัวตน กรณีทำธุรกรรมการเงิน การชำระเงิน รวมถึงการยืนยันสิทธิ์ต่าง ๆ กับทางภาครัฐ ซึ่งหากมิจฉาชีพมีตัวเลขเหล่านี้จะสามารถนำข้อมูลไปทำธุรกรรมหรือนำไปใช้สิทธิ์ต่าง ๆ ได้…