กรอบความคิดมี 3 ระดับ คือ หนึ่ง ระดับตัวเอง ซึ่งหลายคนได้ทำอะไรตั้งแต่เด็กและติดการทำสิ่งนั้นตลอดมาจนไม่สามารถคิดอะไรใหม่ ๆ ได้ สอง ระดับองค์กร บางคนได้ออกนอกกรอบความคิดตัวเองและเริ่มมีความคิดสร้างสรรค์ใหม่ ๆ และจะนำไปเสนอแต่ไปติดที่นโยบายขององค์กรหรืออาจจะติดในเรื่ององค์กรไม่มีงบประมาณเพียงพอ สาม ระดับสังคม บางคนได้ออกนอกกรอบทั้งระดับตัวเองและระดับองค์กรแล้ว แต่จะติดกรอบความคิดของสังคมเพราะสิ่งที่นำเสนอเป็นสิ่งที่สังคมยังไม่พร้อมที่จะยอมรับ จึงเป็นอุปสรรคในการพัฒนา ด้วยเหตุนี้ เราจึงมีตัวอย่างพร้อมวิธีคิดนอกกรอบเพื่อสร้างความคิดสร้างสรรค์ให้กับชีวิตคุณ ดังต่อไปนี้ ตัวอย่างการคิดนอกกรอบ ตัวอย่างที่ 1 ผู้ประกอบการรายหนึ่งได้มองเห็นช่องทางการทำธุรกิจใหม่เกี่ยวกับรถแท็กซี่ ซึ่งจากเดิมรถแท็กซี่ส่วนใหญ่ ไม่อยากรับผู้โดยสารที่พาสัตว์เลี้ยงเนื่องจากได้สร้างกลิ่นให้กับรถแท็กซี่และเล็บของสัตว์เลี้ยงยังไปทำลายเบาะให้เกิดความเสียหายทำให้ผู้ประกอบการรายนี้จึงมีความคิดนอกกรอบ ด้วยการสร้างรถแท็กซี่ที่มีการรับส่งสัตว์เลี้ยงโดยเฉพาะ ไม่ว่าจะพาสัตว์เลี้ยงไปโรงพยาบาลหรือสถานที่ต่าง ๆ ซึ่งลักษณะการดีไซน์ของรถแท็กซี่ จะมีส่วนที่นั่งผู้โดยสารแยกออกจากส่วนที่เป็นสัตว์เลี้ยง เมื่อแบ่งส่วนอย่างชัดเจน ก็จะทำให้ส่วนของสัตว์เลี้ยงโดยสารมีช่องระบายอากาศ ไม่มีการสะสมของกลิ่นและยังทำให้รักษาความสะอาดได้ หลังจากที่มีความคิดสร้างสรรค์ เขาก็เริ่มเปิดบริการรับส่งสัตว์เลี้ยง ปรากฏว่า มีคนต้องการใช้บริการเป็นจำนวนมากทำให้มีรายได้ดีจนต้องขยายกิจการ ตัวอย่างที่ 2 สังคมผู้หญิงไทยในอดีตไม่ได้รับการศึกษา แต่ให้อยู่บ้านเพื่อเป็นแม่บ้าน เมื่อสังคมได้มีการพัฒนามากขึ้น ก็จะมีการออกจากกรอบเดิมทำให้มีโอกาสการศึกษาและไปทำงานนอกบ้าน ส่งผลดีต่อการพัฒนาสังคม เศรษฐกิจและประเทศให้มีความเจริญมั่นคง ซึ่งเป็นการสร้างคุณประโยชน์มากมายเลยทีเดียว วิธีคิดนอกกรอบ วิธีที่ 1 ถามใจตัวเองว่า มีความกลัวหรือไม่ ความกลัวทำให้ไม่กล้านำเสนอไอเดียใหม่…