คนส่วนใหญ่สงสัยว่า คนจนสามารถพัฒนาเป็นคนรวยได้หรือไม่ ซึ่งจากผลการทดลอง โดยเฉลี่ยแล้วเนื้อสมองของเด็กที่เกิดในสิ่งแวดล้อมที่ดีย่อมได้เปรียบกว่า แต่ใช่ว่าเด็กที่เกิดจากครอบครัวร่ำรวยจะฉลาดหรือเก่งกว่าเด็กที่เกิดจากครอบครัวยากจนเสมอไป ถ้ามีการฝึกความคิดและจินตนาการเป็นประจำเพื่อกระตุ้นพัฒนาสมอง ยิ่งมีพ่อแม่คอยดูแลหรือพ่อแม่ที่รักการอ่าน ก็จะช่วยให้เด็กรักการอ่านนำไปสู่โลกกว้าง และมีโอกาสพัฒนาเป็นคนรวยได้ ด้วยเหตุนี้ เราจึงมาบอกเหตุผลที่ทุกคนมีโอกาสเป็นคนรวยได้ ซึ่งมีอะไรบ้าง มาดูกัน
เดินหน้าแบบไม่มีถอย
เมื่อได้ตั้งเป้าหมายแล้วตั้งใจจริง ต่อให้มีอุปสรรคก็ไม่ยอมแพ้และยืนหยัดเดินหน้าต่อไป เพราะรู้ว่าไม่มีอะไรหรอกที่ได้มาง่าย ๆ เช่น ประวัติในอดีตของ แจ็ค หม่า ก่อนที่จะเป็นผู้บริหาร หรือ CEO อาลีบาบา ซึ่งเป็นเศรษฐีใหญ่ในประเทศจีนหรือของโลก เขาเกิดในชนบทซึ่งมีฐานะยากจนและไม่เก่งในด้านการเรียน เมื่อถึงเวลาที่จะสอบเข้ามัธยม กว่าจะสอบเข้าได้ถึง 3 ครั้ง หลายปีต่อมาก็ได้สอบเอ็นทรานซ์เพื่อเข้ามหาวิทยาลัย ไม่ติดถึง 2 รอบ เมื่อเรียนจบแล้ว ไปสมัครงานก็ไม่มีใครรับ ถูกปฏิเสธงานถึง 30 บริษัท จากนั้นได้ไปสมัคร KFC เพราะได้ข่าวการประกาศเปิดรับสมัครพนักงานจำนวน 24 คน สุดท้ายผ่านทั้งหมด 23 คน ยกเว้น แจ็ค หม่า เพียงคนเดียวที่ KFC ไม่รับเข้าทำงาน
ต่อมา แจ็ค หม่า ได้ข่าวว่าประเทศจีนเปิดให้ชาวต่างชาติเข้ามาพักเป็นจำนวนมาก ทำให้เกิดไอเดียเกี่ยวการใช้ภาษาอังกฤษว่าเป็นสิ่งจำเป็น จึงได้ปั่นจักรยานจากบ้าน ระยะทาง 20 กิโลเมตร ประมาณ 45 นาที เพราะ แจ็ค หม่า ไม่มีเงินค่ารถ เมื่อถึงหน้าโรงแรมแล้วได้เห็นชาวต่างชาติจึงได้วิ่งเข้าไปหา ทั้งที่พูดภาษาอังกฤษไม่ค่อยได้ แจ็ค หม่า คิดว่าเป็นการฝึกพูดแบบไม่ต้องเสียเงินเรียน จึงยอมเสียเวลาปั่นจักรยานพาเที่ยวฟรี ในระยะเวลา 9 ปี ในที่สุดทักษะการพูดภาษาอังกฤษของ แจ็ค หม่า พัฒนาจนอยู่ในระดับดีเยี่ยม
เมื่อภาษาอังกฤษได้พัฒนาก็ทำให้ แจ็ค หม่า ได้เป็นไกด์ให้กับนักธุรกิจอเมริกา ส่งผลดีในการเปิดโลกทัศน์กว้างขึ้น โดยเฉพาะได้ความรู้เรื่องคอมพิวเตอร์ที่เชื่อมต่อกับอินเทอร์เน็ต และได้กลับมาชวนเพื่อนกว่า 20 คน เพื่อทำเว็บไซต์ขายของ แต่คนที่เห็นด้วยมีเพียงคนเดียวเท่านั้นเอง แต่เขาก็ไม่หมดกำลังใจและทำต่อไป ในที่สุดได้ประสบความสำเร็จการเป็น ผู้บริหาร หรือ CEO อาลีบาบา เศรษฐีใหญ่ประเทศจีนหรือของโลกในปัจจุบันที่เราได้เห็นกัน ซึ่งเรื่องราวของ แจ็ค หม่า เป็นตัวอย่างจริงให้เห็นถึงการเดินหน้าไม่มีถอยนั่นเอง
พัฒนาตัวเองอย่างต่อเนื่อง
การฝึกฝนตัวเองแบบไม่หยุดอยู่กับที่ คือ การเรียนรู้ไม่ใช่แค่ตอนเรียน แต่เมื่อทำงานแล้วก็ต้องขวนขวายความรู้หรือทักษะเพิ่มเติมด้วย ดูอย่างอาชีพนักฟุตบอล การจะทำประตูให้มีสกอร์ส่วนๆหรือชนะทีมคู่แข่งได้ในบอลพรุ่งนี้และวันต่อๆไปก็ต้องหมั่นขยันซ้อมอย่างหนักตลอดเวลา เพื่อจะได้เก่งขึ้น ซึ่งประวัติคนรวย 80 เปอร์เซ็นต์ที่สร้างจากน้ำพักน้ำแรงของตัวเอง เขาไม่ได้รอว่าต้องมีเงินหรือรวยก่อนที่จะเรียนรู้ หากคุณอยากให้แน่ใจว่าการพัฒนาตัวเองอย่างต่อเนื่องช่วยให้รวยจริงหรือไม่ คุณลองหาโอกาสไปพบประธานบริษัทที่ชอบการพัฒนาตัวเองด้วยการเรียนรู้จากการอ่านหนังสือ แล้วลองถามเขาดูว่า เริ่มอ่านหนังสือตั้งแต่เมื่อไหร่ รับรองเลยว่าเขาจะต้องตอบ “ตั้งแต่หนุ่ม” หรือ “ตั้งแต่เด็ก” ในช่วงสมัยเป็นนักเรียนอย่างแน่นอน แสดงให้เห็นว่า คนที่มีรายได้สูงหรือเป็นคนรวยในตอนนี้ ได้พัฒนาตัวเองด้วยการเรียนรู้เป็นประจำตั้งแต่ยังไม่มีเงินหรือก่อนที่จะประสบความสำเร็จเสียอีก
มีน้ำใจหรือไม่เห็นแก่ตัว
คนที่ประสบความสำเร็จอย่างยิ่งใหญ่ จะเป็นคนที่มีน้ำใจและไม่เห็นแก่ตัวกับผู้คน มีอะไรช่วยได้ก็จะช่วย เมื่อได้เห็นใครลำบาก ไม่ว่าจะเป็น แรงกาย แรงใจ คำแนะนำหรือกำลังทรัพย์ที่พอจะทำได้ ทำให้พวกเขาเป็นคนที่มีความเชื่อถือ ผู้คนยอมรับและมีเครือข่ายที่กว้าง สามารถทำการใหญ่ ๆ ได้ จึงไม่แปลกใจทำไมถึงเป็นคนรวย
สิ่งสำคัญที่สุดของการเป็นคนรวยทั่วโลก คือ เขาไม่คิดว่าการออมเงินนั้น ต้องเหลือก่อนค่อยเก็บ แต่เขาจะเก็บก่อนเพื่อให้มีความรู้สึกถึงความมั่งคั่ง แม้จะเก็บเงินได้เพียงน้อยนิดก็ตาม เนื่องจากเขาเห็นคุณค่าเงิน จึงไม่ได้ดูถูกเงินเล็กน้อยและมีความเชื่อว่าการเก็บเงินเพียง 1 บาท ก็สามารถเพิ่มพูนได้นั่นเอง